ทนไม่ไหว! จี้สอบสามเณรแปลงเป็นสาว วิ่งล่าแต้มพระในวัด
มิจฉาชีพอ้างเป็นผู้ว่าฯ หลอกร่วมบุญกฐินกว่า 1 ล้านบาท
คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ หลังเสร็จงานทอดกฐินประจำปี 2566 ของวัดเกตุประภา คลอง 6 อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นช่วงที่กลุ่มกรรมการวัดนัดเจราจากับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งจองเป็นเป็นเจ้าภาพงานกฐิน แต่ปรากฏว่าพอถึงเวลาผู้หญิงรายนี้มาร่วมงานจริง แต่เบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่วัดจัดเตรียมไว้ให้
โดยผู้หญิงคนนี้ อ้างกับกรรมการวัดว่ามีปัญหาเรื่องธุรกิจ ทำให้ไม่สามารถนำเงินมาทำบุญได้ตามที่แจ้งไว้
สร้างความเดือดร้อนให้กับทางวัดอย่างมาก เพราะค่าใช้จ่ายในการจัดกฐินดังกล่าว ทางวัดออกไปแล้วกว่า 1 ล้านบาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง อันดับ 1
ล่าสุดทีมข่าว PPTV ได้ลงพื้นที่สอบถามเหตการณ์ที่เกิดขึ้นพบกับ พระครูโอภาสธรรมมงคล เจ้าอาวาสวัดเกตุประภา พร้อมกับกรรมการวัด ซึ่งบรรยาการในวัดยังคงมีเต็นท์จัดงานกฐินตั้งอยู่
เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว ผู้หญิงคนนี้มาร่วมทำบุญงานกฐินที่วัด ก่อนจะมาแจ้งว่าขอจองเป็นเจ้าภาพปี 2566 จนเดือน ส.ค.66 ซึ่งเป็นช่วงพรรษา ผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาพบเจ้าอาวาส และยังยืนยันจองเป็นเข้าภาพงานกฐิน โดยมียอดเงินบุญประมาณ 1 ล้านบาท จากนั้น ทางเจ้าอาวาสและกรรมการวัด ก็กำหนดวันจัดงานกฐิน เป็นวันที่ 26 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนจะถึงวันงานผู้หญิงคนนี้ก็ยังมาสอบถามเรื่องรายละเอียดงานและการทำโรงครัว
ทั้งนี้จนกระทั่งเย็นวันที่ 25 พ.ย. 66 ก่อนวันงานเพียงวันเดียว ผู้หญิงคนนี้มาบอกทางวัดว่าไม่มีเงินทำบุญกฐิน 1 ล้านบาทตามที่แจ้งไว้ ทางเจ้าอาวาสจึงย้ำไปว่าต้องหาเงินให้ได้ เพราะเตรียมงานไว้หมดแล้ว จนถึงวันงานผู้หญิงคนนี้ก็ไม่มีเงินมาทำบุญ
พระครูโอภาสธรรมมงคล กล่าวต่อว่า จัดงานกฐินทุกปีไม่เคยมีปัญหา ส่วนใหญ่เจ้าภาพจองกฐินสูงสุด 2-3 แสนบาท แต่ผู้หญิงคนนี้บอกว่าจะมีเงินบุญ 1 ล้าน ทางวัดก็ดีใจเพราะเป็นวัดเล็ก ๆ ที่หน่วยงานเข้าไม่ถึง จึงตั้งใจจะเอาเงินกฐินมาบูรณะหลังคาโบสถ์ ซ่อมแซมศาลาใหม่ เพื่อรองรับชาวบ้านที่จะเข้ามาที่วัด แต่พอไม่ได้เงินตามที่ตกลงกันไว้ ก็เสียใจ และคงบูรณะวัดได้แค่ตามกำลังที่มี
ขณะที่กรรมการวัดได้นำป้ายไวนิล ประชาสัมพันธ์งานกฐินมาให้ทีมข่าวดู ซึ่งในป้ายระบุชื่อของผู้หญิงคนดังกล่าว และเพื่อนเอาไว้ชัดเจน ซึ่งป้ายนี้ทางวัดเสียเงินจัดทำถึง 4,500 บาท และจากการตรวจสอบก็พบว่า ผู้หญิงคนดังกล่าว ก็ยังนำป้ายไวนิลที่มีชื่อของตัวเอง ไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ลักษณะเรี่ยไรเงินกฐิน กองละ 1,999 บาท พร้อมระบุเลขบัญชีส่วนตัวด้วย และในคอมเมนต์มีคนร่วมบริจาคหลายคน ทำให้ตั้งข้อสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เปิดรับเงินทอดกฐินจริง แต่กลับไม่เอามาให้ทางวัด
นอกจากนี้ในวันทอดกฐิน ผู้หญิงคนนี้ยังขับรถป้ายแดงมาร่วมงาน แต่ไม่ยอมบริจาคเงินแม้แต่บาทเดียว ซื้อเพียงผ้าไตรกับเครื่องครัวมาร่วมบุญเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหลังจบงานกฐิน ทางวัดได้เรียกผู้หญิงคนนี้มาพูดคุยตกลงกัน เพื่อให้รับผิดชอบในส่วนที่ทางวัดจ่ายเงินไปแล้วกว่า 1.8 แสนบาท โดยฝ่ายผู้หญิงเสนอทำสัญญาว่าจะนำเงินมาคืนให้วัด 300,000 บาท ในวันที่ 1 ธ.ค. 66แต่เมื่อถึงกำหนดก็ไม่เอาเงินมาให้ แถมยังแจ้งความเอาผิดกับกรรมการวัด ว่าทำให้เสียชื่อเสียง จนวัดต้องออกมาร้องเรียน
ล่าสุดทางพระลูกวัด และกรรมการวัดได้เข้าแจ้งความเอาผิดผู้หญิงคนนี้ โดยตั้งข้อสงสัยหลายประเด็น เช่น หากธุรกิจขาดทุนตามที่อ้าง ทำไมไม่แจ้งล่วงหน้าว่าไม่สามารถเป็นเจ้าภาพได้ หากธุรกิจขาดทุน แต่ทำไมออกรถป้ายแดง การโพสต์เฟซบุ๊กให้คนร่วมทำบุญกฐิน แต่ให้โอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง และทำไมถึงเข้าแจ้งความตำรวจ ทั้งที่ตกลงจ่ายเงินให้กับทางวัด 300,000 บาทแล้ว
ทีมข่าวพยายามติดต่อผู้หญิงตามเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้กับทางวัด แต่เมื่อโทรไปไม่มีใครรับสาย